Gluta DRcaps

“กลูต้า”เกลื่อนตลาดทำไมกินเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผล?
L-Glutathione (แอล-กลูต้าไธโอน) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “กลูต้า” มักจะเป็นหนึ่งในสูตร “เร่งผิวขาว” ของผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ตัวที่วางขายในท้องตลาด โดยในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่น่าเชื่อถือยืนยันหรือรับรองประสิทธิภาพและประโยชน์ของกลูตาไธโอนในการทำให้ผิวขาวได้อย่างแท้จริง แต่พบเป็นเพียงผลข้างเคียงของกลูต้าไธโอนในรูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ที่ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน จึงทำให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใสมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนในท้องตลาดที่โฆษณาว่าช่วยเรื่องบำรุงผิวขาวใสส่วนใหญ่อยู่ในรูปยาเม็ดหรือผงละลายน้ำสำหรับรับประทาน ซึ่งกลูต้าไธโอนเป็นอนุพันธ์ไตรเปบไทด์ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ถูกทำลายได้ง่ายจากกรดและเอนไซม์ในทางเดินอาหาร ในท้ายที่สุดกลูตาไธโอนในรูปแบบรับประทานนั้นแทบจะไม่มีประโยชน์เลย เนื่องจากสารสำคัญถูกทำลายไปก่อนที่จะดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์…. จึงเป็นโจทย์สำคัญของผู้ผลิตที่จะต้องพัฒนานวัตกรรมในการปกป้องสารกลูต้าไธโอนไม่ให้เสื่อมสลายไประหว่างการลำเลียงเข้าสู่ร่างกาย

“กลูต้าไธโอน” ประโยชน์ที่มีมากกว่าความขาว
กระบวนการต้านอนุมูลอิสระ; Antioxidation

กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทำหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่และเป็นอันตรายต่อร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ โดยมีหน้าที่หลักในการขจัดอนุมูลไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และอนุมูลไฮดรอกซีล (Hydrogen peroxide and Hydroxyl radicals) ทำให้ glutathione สามารถทำลายสารก่อมะเร็งได้กว่า 12 ชนิด

กระบวนการกำจัดสารพิษ; Detoxification
ในกระบวนการขจัดสารพิษของร่ายกาย กรดอะมิโน แอล-ซีสเทอีน เป็นองค์ประกอบหนึ่งในโครงสร้างของกลูต้าไธโอน มีบทบาทสำคัญในการช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยทำการเปลี่ยนสารพิษ ชนิดที่ไม่ละลายในน้ำ เช่น โลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง ให้เป็นสารที่ละลายในน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย ช่วยป้องกันสมองและตับจากการถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์, ยา และการสูบบุหรี่ โดยจะเข้าไปช่วยต่อต้านสารพิษ สร้างสารแอนตี้ออกซิเดนซ์โดยทำงานร่วมกันกับ Vitamin C

ระบบภูมิคุ้มกัน; Immune System
กลูต้าไธโอนมีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด Neutrophil ให้กำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อก่อโรคต่าง ๆ ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

ประโยชน์อื่น ๆ ของกลูต้าไธโอน
มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดกลูต้าไธโอนจะก่อให้เกิดภาวะ Oxidative stress ซึ่งเป็นตัวเร่งการดำเนินไปของโรคต่าง ๆ อาทิ โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคตับ มะเร็ง โรคหัวใจและโรคเบาหวาน จึงเชื่อว่าการรักษาระดับของกลูต้าไธโอนให้มีมากเพียงพออยู่เสมอก็จะมีส่วนช่วยให้เราห่างไกลจากภาวะต่าง ๆ ได้

เพิ่มเกราะป้องกันแน่นหนาให้กลูต้าเหลือรอดจากการถูกทำลายด้วย ดีอาร์ แคป (DR caps)
จากโครงสร้างทางเคมีของกลูต้าไธโอนประกอบด้วยอนุพันธ์ของกรดอะมิโนแอซิด 3 ตัว ได้แก่ Glutamate Cysteine และ Glycine ซึ่งถูกทำลายได้ง่ายโดยเอนไซม์ในกระเพาะอาหาร จึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีการป้องกันการสูญสลายไประหว่างทางก่อนที่กลูต้าไธโอนจะถูกดูดซึมและนำไปใช้งาน นั่นก็คือนวัตกรรม DR Caps ซึ่งเป็นแคปซูลรูปแบบพิเศษที่จะช่วยปกป้องโมเลกุลของกลูต้าไธโอนจากทั้งความร้อน ความชื้น และสภาวะกรดในทางเดินอาหาร เพื่อให้กลูต้าไธโอนเดินทางไปถึงลำไส้เล็กและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปใช้ประโยชน์ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ DR Caps ยังมีข้อดีในด้านอื่น ๆ คือช่วยปกปิดกลิ่นรสไม่พึงประสงค์ของสารสำคัญได้ดี และเป็นแคปซูลที่ทำจากพืช

กลูต้าไธโอนมีส่วนช่วยในการสร้างและซ่อมแซม DNA โดยการยับยั้งการทำงานของไอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ที่ทำหน้าที่สังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน (Melanin) และกระตุ้นการสร้าง ฟีโอเมลานิน (Pheomelanin) ที่เป็นเซลล์เม็ดสีที่อ่อนกว่า ยูเมลานิน (Eumelanin) ที่เป็นเซลล์เม็ดสีเข้ม ซึ่งช่วยลดความเข้มของเม็ดสีบนผิว จุดด่างดำดูจางลง สีผิวสม่ำเสมอและกระจ่างใสมากขึ้น

นอกจากนี้ กลูต้า ดีอาร์แคป ยังมีส่วนผสมของสารสกัดอื่น ๆ ที่ช่วยดูแลผิวพรรณ ได้แก่

L-Cysteine (แอล-ซิสเทอีน) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างโปรตีนในร่างกาย ผิว ผม เล็บให้มีสุขภาพดี รากผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย ช่วยกระตุ้นการสร้างกลูต้าไธโอนในร่างกาย

Pine Bark สารสกัดเปลือกสน มีคุณสมบัติเป็น Super Antioxidant ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามิน C ถึง 20 เท่า โดยรู้จักกันทั่วไปในชื่อของ “พิกโนจีนอล (Pycnogenol)” และยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามิน E ถึง 50 เท่า โดยสารสกัดจากเปลือกสนโดดเด่นมากในเรื่องของ ลดปัญหาจุดด่างดำ ฝ้า กระ ลดริ้วรอยก่อนวัย ช่วยเติมเต็มร่องลึก เผยผิวขาวกระจ่างใส บำรุงผิว ลดความหยาบกร้าน

Grape Seed สารสกัดจากเมล็ดองุ่น มีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์ที่ทำร้ายคอลลาเจนใต้ผิว ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ช่วยให้หลอดเลือดฝอยแข็งแรงสามารถนำพาสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิวได้ดี มีสาร “โอลิโกเมอริก โปรแอนโทไซยานิดิน” หรือ OPC’s ซึ่งเป็นสาร “Super Antioxidant” อยู่ในกระแสเลือดได้นานถึง 72 ชั่วโมง จึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการใช้เพื่อฟื้นฟู และชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวพรรณ

กลูต้า ดีอาร์ แคปส์เหมาะกับใคร?
ผู้ที่ต้องการชะลอวัย (Anti-aging) และลดความเสื่อมถอยของเซลล์
ผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้กระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัย
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการรับโลหะหนักและสารตกค้าง เช่น ผู้ที่อาศัยยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณโลหะหนักเกินกว่าค่ามาตรฐานเป็นเวลานาน ทำงานที่เกี่ยวข้องกับโลหะหนัก สูดดมมลพิษทางอากาศเป็นประจำ ผู้ที่สูบบุหรี่หรือสัมผัสควันบุหรี่ (second-hand smoker) เป็นต้น
ผู้ที่มีปัญหาโรคตับ ตับอักเสบ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
ข้อแนะนำในการรับประทาน
รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละครั้ง หลังอาหาร
เอกสารอ้างอิง

คณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. กลูตาไธโอนทําให้ขาวจริงหรือ!. [อินเทอร์เน็ต] 12 ธ.ค. 2553 [เข้าถึงเมื่อ 23 ม.ค. 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://pharmacy.mahidol.ac.th/knowledge/files/0006.pdf